
conductor
วาทยกร (conductor) หรือผู้อำนวยเพลง คือคนที่ตีความหมายของบทเพลง โดยเห็นภาพรวมทั้งหมดของวงดนตรี มีหน้าที่ดึงความสัมพันธ์ของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นออกมาเพื่อสอดผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน อาจกล่าวอีกนัยได้ว่า วาทยกร เป็นผู้ที่สื่อสารกับนักดนตรีด้วยภาษามือ เป็นเหมือนภาษาใบ้ที่ใช้กับดนตรี พร้อมกันนี้วาทยกรต้องมีความเป็นผู้นำที่สามารถให้ความเชื่อมั่นแก่นักดนตรีด้วย เสมือนผู้กำกับ
วาทยกรควบคุมวงดนตรีโดยการใช้รหัส หรือสัญญาณมือ มักถือไม้บาตอง (Baton) สำหรับให้จังหวะ วาทยากรจะพบในการแสดงดนตรีประเภท ออเคสตร้า วงประสานเสียง และ การบรรเลงดนตรี โดยเฉพาะวงดุริยางค์ของกองทัพ ซึ่งอาจเรียกว่า หัวหน้าวงดุริยางค์
วาทยกรผู้เป็นสมาชิกของวงออเคสตร้าจะเป็นคนที่กำหนดทิศทางของวง ซึ่งบางครั้งเรียกว่า ผู้กำกับดนตรี หรือเรียกว่า คาเปลไมสเตอร์ (Kapellmeister) ในภาษาเยอรมันซึ่งหมายความถึง หัวหน้าวาทยากรในวงออเคสตร้าเยอรมัน สำหรับวาทยกรของวงประสานเสียง จะเรียก ผู้ควบคุมวงประสานเสียง ส่วนวาทยากรอาวุโสจะเรียกว่า มาเอสโตร (maestro - นาย) ในภาษาอิตาเลียน

คอนดักเตอร์ = ผู้กำกับ
นักดนตรี = ผู้แสดง
โน๊ต = บท
เหตุที่ต้องมีconductor ก็เพราะนักดนตรี เวลาเล่น จะฟังคนอื่นไม่รู้เรื่องจึงต้องมีคนคอยฟังและคอยจัดระเบียบ นักดนตรีต้องดูทั้งโน้ตทั้ง conductor โน้ตมีไว้บอกตัวบทเพลงที่เล่นว่ามีโน้ตอะไรบ้าง แบ่งจังหวะอย่างไร ส่วน conductor ก็จะบอกสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในโน้ต โดยมือขวาของ conductor จะบอกความเร็วของบทเพลง สังเกตได้จากจังหวะการแกว่งไม้บาตอง (หรือบางทีก็ไม่ถือไม้ก็มี) ถ้าแกว่งช้าลงเพลงก็จะช้า ส่วนมือซ้ายจะบอก dynamic ของบทเพลง ว่าต้องการเสียงดังเสียงเบาเท่าไหร่
อีกหนึ่งสุดยอด คนไทย ที่มีชื่อเสียงก้องโลก
อาชีพ Conductor เป็นอาชีพแนวหน้าระดับโลก และเป็นยากมากเพราะต้องเล่นเครื่องดนตรีเป็นทุกชิ้น และหูจะต้องจับเสียงเครื่องดนตรีได้ทุกชิ้น และต้องคุมวงดนตรีวงระดับ Orchestra ได้ทั้งวง และเป็นคนที่มี IQ สูงมาก ถือว่าสุดยอดมาก
วาทยกร บัณฑิต อึ้งรังษี
วาทยกรชาวไทย บัณฑิต อึ้งรังษี ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นวาทยกรรุ่นใหม่ที่สำคัญคนหนึ่งของโลก จากการที่เขาได้รับรางวัลการแข่งขันวาทยกรระดับนานาชาติหลายครั้ง
เช่น ที่ประเทศฝรั่งเศส ( Besancon Competition ) ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐,
ที่ประเทศโปรตุเกส (รางวัลชนะเลิศ) ในปีพ.ศ. ๒๕๔๒
ที่ประเทศฮังการี ในปีพ.ศ. ๒๕๔๕
และล่าสุดที่ คาร์เนกีฮอลล์ (Carnegie Hall ) มหานครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี ๒๕๔๕ ในการแข่งขัน Maazel-Vilar International Conducting Competition ซึ่งเป็นการแข่งขันวาทยกรที่สำคัญที่สุดในโลก โดยเป็นผู้ชนะเลิศจากผู้แข่งขัน ๓๖๒ คนทั่วโลก จากการตัดสินของคณะกรรมการที่มีชื่อเสียงของโลกเช่น Lorin Maazel, Kyung-Wha Chung, Glenn Dicterow, Krzysztof Penderecki ฯลฯ
หลังจากการแข่งขัน บัณฑิตได้รับเชิญไปกำกับวงดนตรีออร์เคสตร้าที่สำคัญต่างๆทั่วโลก วงต่าง ๆที่เขาได้กำกับมาแล้วก็มีวง
New York Philharmonic Orchestra,
Los Angeles Philharmonic Orchestra,
Orchestra Filarmonica di Arturo Toscanini
และวงในประเทศต่าง ๆ เช่น สเปน ตุรกี เกาหลี ออสเตรีย รัสเซีย อิตาลี ออสเตรเลีย ฮังการี ฝรั่งเศส เยอรมนี เชคโกสโลวาเกีย ไทย โปรตุเกส และทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งคณะนักร้องประสานเสียงชื่อดังของโลก Mormon Tabernacle Choir
บัณฑิตได้เคยทำงานร่วมกับศิลปินชั้นนำของโลก เช่น
Maxim Vengerov,
Mikhail Pletnev,
Julia Migenes,
the LaBeque Sisters,
Paula Robison,
Christopher Parkening,
Christine Brewer
และ Elmer Bernstein
และเขายังได้รับการกล่าวขวัญถึงจากหนังสือพิมพ์และสื่อสำคัญต่าง ๆ ของโลก ได้แก่ Los Angeles Times, New York Times, American Record Guide, Charleston Post and Courier, Deseret News, Salt Lake Tribune, Gramophone magazine, New York Magazine, L’Unione Sarda (อิตาลี), El Correo Gallego (สเปน) ฯลฯ
ปัจจุบัน นอกเหนือจากการเดินทางไปกำกับวงต่าง ๆ รอบโลกแล้ว บัณฑิตยังดำรงตำแหน่งให้กับวง New York Philharmonic และวง Charleston Symphony Orchestra บัณฑิตเคยได้รับตำแหน่งสำคัญๆ ได้แก่
Associate Conductor ของวง Utah Symphony,
Music Director ของวง Debut Orchestra (Los Angeles),
Apprentice Conductor ของวง Oregon Symphony Orchestra
และ Assistant Conductor ของวง Santa Rosa Symphony
บัณฑิตได้รับการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนอัสสัมชัญ อัสสัมชัญพาณิชย์ และ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และไปศึกษาต่อวิชาดนตรีที่มหาวิทยาลัยวูลองกองที่ประเทศออสเตรเลีย ศึกษาวิชาการอำนวยเพลงที่ University of Michigan ในสหรัฐอเมริกา และศึกษาเพิ่มเติมในประเทศอิตาลี ออสเตรีย รัสเซีย เยอรมนี และ ฟินแลนด์
ในปีพ.ศ. ๒๕๔๑ เขาเป็นหนึ่งในวาทยกรรุ่นใหม่ ๙ คนจากทั่วโลกที่ได้รับเชิญไปศึกษาที่ Carnegie Hall ในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเหตุให้เขาได้รับทุน Leonard Bernstein Fellowship ไปศึกษาต่อกับ Seiji Ozawa ที่ Tanglewood Music Center
ปัจจุบันนี้บัณฑิตอาศัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีภรรยาเป็นนักร้องโซปราโน ชี่อ แมรี่ เจน อึ้งรังษี และเร็วๆนี้เพิ่งมีสมาชิกใหม่เป็นลูกสาวชื่อ นาริศา อึ้งรังษี
No comments:
Post a Comment